บ่อยครั้งที่หลายๆคนได้เห็นโฆษณาเกี่ยวกับฟอเร็กส์ทางอินเตอร์
มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจเหลือเกินที่ได้เห็นบางคนสามารถทำเงินได้เป็นล้านดอลล่าร์
บางเว็บไซต์ก็มีการขายระบบเทรดที่สามารถทำกำไรได้เป็น 1000% แต่พวกเขาก็ยังอดสงสัยไม่ได้ ว่าแท้ที่จริงแล้วฟอเร็กส์นั้นสามารถทำกำไรได้แบบนั้นจริงๆหรือป่าว
เทรดเดอร์มืออาชีพต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ได้” แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำกำไรอย่างยั่งยืนได้จากตลาดแห่งนี้
ทำไมการเทรดฟอเร็กส์นั้นไม่ง่าย
เหตุผลหลักที่ทำให้การเทรดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ก็เพราะว่ามันมีเรื่องของต้นทุนในการเทรดและการแข่งขันที่สูง
ตลาดฟอเร็กซ์นั้นเป็นตลาดที่มีความผันผวนมากที่สุดในโลก
และมีเงินหมุนเวียนเฉลี่ยกว่า 4 ล้านล้านดอลล่าร์ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการแข่งขันในตลาดแห่งนี้สูงมาก ทั้งธนาคารขนาดใหญ่
เฮดจ์ฟัน และนักเก็งกำไร ต่างก็ต่อสู้กันเพื่อแย่งเงินในตลาด
ดังนั้นตลาดแห่งนี้จึงต้องการผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อที่จะรับกำไรนั้นไป
นอกจากนี้ ในขณะที่ธนาคารสามารถส่งคำสั่งไปถึงธนาคารกลางได้โดยตรง
แต่เทรดเดอร์รายย่อยกลับมีต้นทุนสูงกว่า ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่กัดกินเงินของพวกเขาโดยเฉพาะพวกที่เทรดรายวัน
บทพิสูจน์ว่าฟอเร็กส์นั้นเทรดยาก
ได้มีเทรดเดอร์พยายามพิสูจน์ว่าฟอเร็กส์นั้นทำกำไรได้ยากจริงหรือไม่
โดยการทดสอบย้อนหลังกลยุทธ์การเทรดในหลายๆระบบ
กลยุทธ์การเทรดโดยใช้การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย
ในตอนแรกจะใช้ระบบการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยแบบ EMA 50 วัน ตัดกับ 200 วัน
ระบบจะส่งสัญญาณซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยแบบ EMA 50 วัน
อยู่เหนือกว่า 200 วัน
และจะส่งสัญญาณขายเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยแบบ EMA 50 วัน
อยู่ต่ำกว่า 200 วัน ระบบทดสอบกับคู่เงิน GBPUSD ไม่มีการใช้เลเวอร์เลจ โดยจะทดสอบตั้งแต่ 1/มกราคม/1990
จนถึง 1/ มกราคม/2010 และค่าคอมมิสชันจะอยู่ที่
0.01% โดยจะได้ผลกำไรเมื่อคิดตามกำไรทบต้นต่อปี อยู่ที่ 0.36% และมีการขาดทุนสะสมสูงสุดอยู่ที่ -28%
เขาสรุปว่าการเทรดด้วยระบบตามแนวโน้มโดยใช้วิธีนี้ แทบจะไม่มีกำไรเลย
การค้นหาค่าที่ดีที่สุดของเส้นค่าเฉลี่ยแบบ EMA
เขาได้ตัดสินใจค้นหาค่าพารามิเตอร์ที่ดีที่สุดของเส้นค่าเฉลี่ยแบบ EMA โดยทดสอบการตัดกันตั้งแต่ 5 วัน ไปจนถึง 400
วัน
ผลที่ดีที่สุดที่ได้คือ การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยแบบ EMA 120 วัน กับ EMA 261 วัน แต่มันก็ยังทำผลกำไรเมื่อคิดตามกำไรทบต้นต่อปีได้แค่ 2.36% และการขาดทุนสะสมสูงสุดอยู่ที่ -13%
หลังจากนั้นเขาได้ทดลองโดยเปลี่ยนค่าพารามิเตอร์จากค่าที่ดีที่สุดไปเพียงเล็กน้อย
โดยเขาได้เปลี่ยนแปลงค่าไปเป็น 110/171 ซึ่งผลที่ได้แตกต่างจากผลที่ได้จากค่าเดอมอย่างสิ้นเชิง โดยผลที่ได้เมื่อคิดตามกำไรทบต้นต่อปีคือ
-1.97%
กลยุทธ์การเทรดโดยใช้ระบบเบรกเอ้าท์
ต่อมาเขาได้ทดสอบระบบเบรกเอ้าท์ โดย ระบบนี้จะส่งคำสั่งซื้อเมื่อราคาปิดอยู่เหนือกว่าระดับราคาที่ผ่านมา 120 วัน
และจะส่งคำสั่งขายเมื่อราคาปิดอยู่ต่ำกว่าระดับราคาที่ผ่านมา 120 วัน ซึ่งเขาได้ทำการทดลองในหลายคู่เงิน ได้แก่ AUDUSD, AUDJPY, EURCHF, EURGBP, EURUSD, GBPUSD, GBPJPY,
USDCAD, USDJPY
ซึ่งผลตอบแทนที่ดีที่สุดเมื่อคิดตามกำไรทบต้นต่อปีที่ได้ ก็คือ 3.45% และการขาดทุนสะสมสูงสุดอยู่ที่ -23%
การค้นหาค่าที่ดีที่สุดของระบบเบรกเอ้าท์
เขาได้ตัดสินใจค้นหาค่าพารามิเตอร์ที่ดีที่สุด
ซึ่งค่าที่ดีที่สุดก็คือ 165 วัน
ซึ่งผลตอบแทนที่ดีที่สุดเมื่อคิดตามกำไรทบต้นต่อปีที่ได้ ก็คือ 5.19% และการขาดทุนสะสมสูงสุดอยู่ที่ -17%
สรุปผล
จากการทดลองจะเห็นได้ว่ากลยุทธแบบง่ายๆให้ผลตอบแทนไม่ดีนักในตลาดฟอเร็กส์ถึงแม้ว่าจะพยายามหาค่าที่ดีที่สุด
แต่ผลกำไรทบต้นต่อปีที่ได้ก็ไม่ได้มากไปกว่า 6% เลย
นี่จึงเป็นตัวอย่างว่าการเทรดฟอเร็กส์นั้นไม่ง่ายเลย
การที่ทำเงินของคุณให้กลายเป็นสองเท่าในด้วยวิธีการพวกนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สนใจเปิดบัญชีเทรด Forex กับโบรกเกอร์ Exness คลิ๊ก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สนใจเปิดบัญชีเทรด Forex กับโบรกเกอร์ Exness คลิ๊ก