เคล็ดลับการเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ
สวัสดี
ครับคุณประวีร์ที่เคารพ ผมสนใจที่จะเป็น Trader
เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นการเสี่ยงที่มีสิทธิ์ที่จะได้รายได้มาก
เห็นว่าการเป็นเทรดเดอร์ไม่ต้องลงทุนมาก ถ้าทำดีๆ ก็ได้ผลตอบแทนเร็ว
ดูหลักวิธีการและเท่าที่ศึกษากับรับฟังมาดูเหมือนไม่ยากเท่าไร
แต่ที่จริงไม่ทราบว่าการเป็นเทรดเดอร์ยากไหมครับและการจะเป็นเทรดเดอร์ควรจะ
มีข้อคิดอย่างไรครับ
Kittisak P.ตอบคุณ Kittisak P.
ถ้าถามแบบนี้จะให้คำตอบก็คือไม่ยากครับ แต่จะเป็น trader
ที่ประสบความสำเร็จที่ได้มากกว่าเสียนั้นยากนะครับ การลงทุนเป็นความเสี่ยง
การเป็น trader นี่ยิ่งเห็นได้ชัดเจนเลยครับเพราะเป็นการเก็งกำไร
มีคำกล่าวถึงธรรมชาติของมนุษย์ว่าส่วนใหญ่ไม่ชอบเสี่ยงแต่ว่าในใจก็ยัง
แอบอยากได้กำไรเยอะๆ จากการเก็งกำไร ไม่ว่าจะเป็นทองคำ ที่ดิน หุ้น
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ
แล้วก็ไปได้ตัวอย่างจากบรรดานักเก็งกำไรที่ได้กำไรเยอะๆ
เอามาเป็นแรงบันดาลใจ
ซึ่งผมก็อยากจะบอกว่านักเก็งกำไรที่เขาประสบความสำเร็จได้เงินมากๆ
เหล่านั้น ก็เปรียบเสมือนเขาได้รับการ "ว่าจ้าง" มาให้รับความเสี่ยงต่างๆ
จากผู้คนรอบข้างที่ไม่อยากเสี่ยงนี่แหละ ยังมี trader
อีกมากมายที่ล้มเหลวและถอดใจ
แต่เราไม่เคยได้ยินเพียงเพราะว่าผู้คนโดยทั่วไปมักจะชอบเล่าลือถึงเรื่อง
ความสำเร็จเท่านั้น
ใครที่ไม่ประสบความสำเร็จเขาก็ไม่อยากไปพูดบอกใครหรอกครับ
มีบทสรุปที่เขารวมไว้ พูดถึงสิ่งที่เป็นเหมือนหลุมพรางทางจิตวิทยา 6
อย่างที่ trader จะต้องเอาชนะก้าวข้ามไปให้ได้ ว่าไปทีละอย่างเลยนะครับ
1. อย่าพึ่งพาคนอื่นมากจนเกินความจำเป็น
ท่องคติไทยที่ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนให้ขึ้นใจ
จะมีผู้คนมากมายทั้งปรารถนาดี/ไม่ดี มาให้ข้อคิด คำแนะนำ อย่างมากต่อท่าน
เช่น broker เพื่อน เซียน เราจะทราบได้อย่างไรว่าเขาเหล่านั้นเป็น Guru
จริงๆ จริงอยู่อาจจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง
ข้อแนะนำในการรับความช่วยเหลือจากคนเหล่านั้นขอให้จำกัดเพียงแค่การอำนวย
ความสะดวก หรือข้อมูลข่าวสารของสิ่งที่เรา trade อยู่
2. เมื่อผิดอย่าโทษคนอื่น ขอให้โทษตัวเองไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร
ผมว่าวินัยข้อนี้จำเป็นนะครับ เพราะหากเราไม่ฝึกฝนให้รับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆ
ที่เกิดขึ้น ขบวนการตัดสินใจจะไม่ยึดผลประโยชน์ของเราเป็นที่ตั้งได้
3. เน้นระยะยาว อย่าปรับวิธีการ trade โดยพิจารณาเพียงผลการ
trade ระยะสั้นเพียงอย่างเดียว ทุกอย่างจะมีวันที่ดีและวันที่ไม่ดี ผลการ
trade ในระยะสั้นอาจจะดูดี
แต่ตามสถิติแล้วมันมีปัจจัยทางด้านโชคมาเกี่ยวข้องมากกว่าระยะยาว
ตัวอย่างมีให้เห็นมากมายครับ อย่างการเข้า/ออกในหุ้น
หรืออัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ
ส่วนใหญ่จะลงเอยด้วยการขาดทุนหรือไม่ก็ได้กำไรไม่พอค่าใช้จ่าย เช่น
Brokerage Fee หรือ bid/offer spread ครับ
4.
อย่าประเมินความยากของการเอาชนะความรู้สึกแย่ๆ ต่ำเกินไป เช่น
แผนการเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จเมื่อสัปดาห์ก่อนอาจจะเป็นแผนที่แย่มากใน
สัปดาห์นี้ก็ได้ ซึ่งเราต้องเอาชนะความรู้สึกแย่ๆ
เช่นนั้นให้ได้และมุ่งมั่นต่อไป เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า
"นักรบย่อมมีบาดแผล" ไหมครับ ตราบใดที่ยังเป็น trader อยู่
ขอให้มองการขาดทุนเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต (a part of
the game) ไม่มีใครเอาชนะตลาดได้หรอกครับ
แต่เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของตลาดในส่วนที่สำเร็จได้
5.
อย่าคึกมากเมื่ออยู่ขาขึ้น คนที่ได้เงินจากการเก็งกำไรมากๆ ติดต่อกัน
จะรู้สึก "คึก" เป็นพิเศษ
อยากจะเพิ่มขนาดของการเก็งกำไรให้มากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดมากนะครับ
ช่วงจังหวะที่ควรเพิ่มขนาดการ trade
น่าจะอยู่หลังจากที่เราเสียอย่างต่อเนื่องมากกว่า
6.
อย่าเหี่ยวลงเมื่ออยู่ขาลง ข้อนี้ตรงข้ามกับข้อ 5 ข้างบน
มีคนเคยกล่าวไว้ว่าการเก็งกำไรเหมือนกับการเล่นกอล์ฟ
นักกอล์ฟทุกคนไม่ว่าจะตีเก่งหรือไม่เก่งต้องมีช่วงตีที่ดีและไม่ดี
เมื่อตีดีก็ดีใจว่าได้ "วง" ที่วิเศษหาอยู่นานมาไว้กับตัว
เมื่อตีแย่ก็จะรู้สึกว่าจะต้องออกจากช่วงนี้ได้อย่างไร trader ก็เหมือนกัน
ตอนได้ผลตอบแทนดีๆ ก็ฮึกเหิมว่าเราเก่ง ทำเงินได้มากและอยาก trade
มากขึ้น ตอนขาดทุนก็อยากจะเลิก trade ไปเลย
สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือให้ยึดมั่นทางสายกลาง ความพอดี
ดูเหมือนพูดง่ายแต่ทำยาก แต่เมื่อลองทำดู ถึงแม้ว่า control ไม่ได้ทั้งหมด
จะพบว่าเราสามารถจะทำให้ trading นั้นมีความยั่งยืน (sustainable)
ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสองขั้วแบบสุดๆ เสมอไปครับ
ขอให้จดจำไว้และฝึกปฏิบัติจะเห็นผลในทางที่ดี อีกนิดหนึ่งแถมท้าย trader
ที่ดี นอกจาก 6 ข้อข้างบนแล้ว จะต้องเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ สมดุล
และควบคุมสภาวะจิตใจของตัวเองให้ได้ เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากนะครับ
ไม่ว่าคุณจะ trade อะไร ทองคำ น้ำมัน FX ดอกเบี้ย เราจะประสบความสำเร็จครับ
ขอให้โชคดีนะครับ
ที่มา-ไทยโพสต์